Title:คนสนิท
Type:One shot
Cup:Gahope,Yoonseok,Suga Top(Seme),J-Hope bottom (Uke)
Rate:18+
Detail:ฟิคสำหรับคนสนิทค่ะ คริ... ;/////;
Update: 100%
จอง โฮซอก
ตาตี่ไล่อ่านประวัติของการ์ดรักษาความปลอดภัยส่วนบุคคลที่ทางบริษัทรายใหญ่ในเครือด้านความปลอดภัยเป็นคนส่งมาให้เขาเลือก
จะว่า มิน ยุนกิ เลือกคนที่หน้าตาาก็ได้นะ แต่เขาสะดุดตากับเจ้าเด็กหัวแดงนี่จริงๆ
รูปร่างผอมบางและประวัติส่วนบุคคลที่ดูแสนธรรมดาจนไม่คิดว่าจะสามารถสมัครเข้าทำงานเป็นบอร์ดี้การ์ดได้ ตัวแค่นี้จะไปปกป้องอะไรได้กัน
มินยุนกิได้แต่แค่นหัวเราะในใจ เด็กคนนี้มันน่าสนใจจนเขาอดไม่ได้ที่จะยื่นเจ้าเอกสารส่งกลับไปหาตัวแทนที่มาติดต่อ อีกฝ่ายดูไม่ค่อยมั่นใจกับสิ่งที่เขาเลือกเสียเท่าไหร่ ไอ้การสลับมองระหว่างกระดาษเอกสารและใบหน้าของเขามันทำให้คนตัวขาวหงุดหงิดเป็นบ้า
“ท่านประธานมินแน่ใจเหรอครับ”
“ฉันไม่ได้ต้องการความคิดเห็นจากนาย และอีกอย่างถ้าเขาไม่ดีจริงบริษัทของนายก็คงห่วยแตกที่รับเอาเด็กกะโปโลเข้ามาทำงาน จริงไหม”
น้ำเสียงเย็นยะเยือกของท่านประธานมินทำเอาอีกฝ่ายได้แต่กลืนน้ำลายก้อนเหนียวลงลำคอ เจ้าตัวยืนตรงโค้งให้อย่างนอบน้อมแล้วรีบตรงดิ่งไปจัดการเรื่องให้
หากมีปัญหากับมินกรุ๊ปมันคงไม่ใช่เรื่องดีเสียเท่าไหร่
มินยุนกิไม่ได้คิดจะมองตามหรือยินดียินร้ายกับการล่ำลาของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย ฝ่ามือหนาหยิบเอาปากกามาเขียนลายเซ็นลงบนใบอนุมัติที่เลขาพึ่งนำมาให้เมื่อชั่วโมงก่อนแต่ใจเขากลับไม่ได้จดจ่อที่มันแม้แต่น้อย
จอง โฮซอก
ตัวจริงจะสวยเหมือนในรูปหรือเปล่านะ
บางทีถ้ามีคนเดินผ่านไปมาอาจแปลกใจหรือถึงขั้นขยี้ตาในเมื่อประธานมินเสือยิ้มยากกำลังยิ้มกรุ้มกริ่มมกับตัวเองคนเดียวภายในห้องส่วนตัวแบบนี้
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“จอง โฮซอกครับ”
ร่างเพรียวภายใต้สูทสีดำตัวโคร่งโค้งคำนับอย่างนอบน้อมเมื่ออยู่ต่อหน้านายจ้าง ใจดวงน้อยสั่นระรัวเมื่อคืนเขานอนแทบไม่หลับเสียด้วยซ้ำเมื่อได้รู้ว่ามีคนตัดสินใจจ้างให้ตนมาเป็นบอร์ดี้การ์ด
โฮซอกเป็นเพียงเด็กบ้านนอกธรรมดาที่มาจากกวางจูแถมยังเป็นแถบชานเมืองอีกต่างหากทำให้การศึกษาไม่ได้มีมากนักจะถนัดก็แต่เรื่องผละกำลังนี่หล่ะ
ไม่คิดว่าการที่ตนมาสมัครในบริษัทรักษาความปลอดภัยเพราะเพียงอยากได้งานจะทำให้เขาได้งานเร็วขนาดนี้ จากการสอบถามคนภายในส่วนใหญ่ก็จะได้แค่เงินเดือนหากพึ่งเข้ามาทำงานใหม่ๆเพราะนายจ้างส่วนใหญ่ชอบคนมีประสบการณ์แต่กับเขาที่พึ่งเข้ามาแต่กลับได้งานเลยมันทำให้แปลกใจไม่น้อย
ดวงตาเรียวเหมือนกวางตัวน้อยพยายามจะสบเข้ากับอีกฝ่ายหากแต่สายตาคมที่มองกลับมานั้นมันทำให้เขาหวาดกลัวได้อย่างไม่ทราบสาเหตุ
ที่เขาว่ากันว่าท่านประธานมินเป็นคนน่ากลัวคงไม่ใช่แค่ข่าวลือ
ผู้ชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หนังสีดำตัวใหญ่แต่งตัวอย่างภูมิฐานแต่กลับมีเครื่องประดับแฟชั่นอย่างคนสมัยใหม่และการวางตัวที่ดูมีมาดมันทำให้คนตรงข้ามเขาดูดีจนไม่อยากละสายตาแต่พอจะกลับไปมองก็ต้องเจอกับประกายความน่ากลัวที่แผ่ออกมาจนสุดท้ายก็ต้องเบนหน้าหนี
“นั่งลงสิ”
เสียงทุ้มเอ่ยบอกเชิงบอกกล่าวแต่ในหัวของโฮซอกมันเหมือนคำสั่งจนรีบทิ้งร่างลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงขามเจ้านายคนใหม่
คนตัวบางนั่งหลังตรงแด่วแข็งทื่อเหมือนตนเองกำลังโดนสั่งให้นั่งหลังตรงภายในค่ายลูกเสือก็ไม่ปาน
ไม่มีบทสนทนาใดๆจนคนไม่คุ้นที่ได้แต่กลืนน้ำลายอึกใหญ่ เหงื่อกาฬที่ไม่รู้มาจากไหนผุดพร่างพรายเต็มหน้าผากเนียนทั้งๆที่แอร์ภายในห้องก็เปิดเสียเย็นเฉียบ
“เอ่อ…ให้ผมเริ่มทำงานตอนไหนครับ”
“บอดี้การ์ดต้องมีความเตรียมพร้อมอยู่เสมอ เธอไม่รู้ข้อนี้เหรอ”
ใบหน้าสวยซีดเซียวทันทีที่ได้ฟัง เขากระพริบตาปริบๆม่านน้ำตาเริ่มก่อตัวกันใกล้ล้นทะลักเต็มทน ได้แต่โทษตัวเองว่าไม่น่าโง่มาสมัครงานแบบนี้เลย แต่จะให้ทำยังไงได้ตัวเลือกของเขามันแทบไม่มีด้วยซ้ำ
“ถ…”
ได้แต่บ่นกับตัวเองในใจจนไม่ได้ยินเสียงอีกฝ่ายที่กำลังพูด ใบหน้าสวยบูดบี้ใกล้จะปล่อยโฮจนกระทั่งแรงฉุดกระชากจากเจ้านายคนใหม่ที่ดึงรั้งให้เก้าอี้ที่เขานั่งอยู่หันกลับมาเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย
ใจดวงน้อยเต้นตึกตักเพราะอาการตกใจและหวาดกลัวกับสายตาดุๆที่ถูกมองมา
“ให้ตาย ถ้าแค่นี้ยังกลัวแล้วเธอจะมาปกป้องฉันได้ยังไง จองโฮซอก”
มินยุนกิเน้นย้ำชื่ออีกฝ่ายเสียงเข้ม การดุจากคนตัวขาวยิ่งเป็นผลให้ไอ้เม็ดใสหล่นทะลักออกมาจากดวงตาได้โดยง่าย โฮซอกปล่อยให้น้ำตาไหลล้นออกมาแต่กลับไร้ซึ่งเสียงสะอื้น ปากนิ่มเม้มเข้าหากันกักกั้นเสียงร้องเอาไว้เพราะกลัวจะโดนอีกฝ่ายดุมากไปกว่านี้
อ่า ให้ตายเหมือนเขาจะแกล้งเด็กนี่แรงเกินไปแฮะ
ฝ่ามือของเจ้านายคนใหม่ส่งไปเช็ดเอาคราบน้ำตาออกอย่างเบามือ ลูบเกลี่ยแก้มนิ่มไปมาจนเคลิ้มตามโดยง่าย
จองโฮซอกอาจจะไม่รู้ตัว แต่สิ่งที่กำลังทำอยู่ตอนนี้เขาเรียกว่ายั่วชัดๆ
ยามนิ้มมือของมินยุนกิเกลี่ยไล้ไอ้เจ้าศีรษะที่ถูกปกคลุมด้วยเส้นผมสีแดงก็ขยับถูไถราวกับออดอ้อนเจ้าของเหมือนแมวตัวน้อย
“อึก!”
โฮซอกสะดุ้งเฮือกเมื่อคนตรงหน้าส่งนิ้มหัวแม่มือที่เมื่อสักครู่ยังลูบไล้กับแก้มของตนเข้ามาภายในโผลงปาก
“ทำความสะอาดซะ”
ลิ้นเล็กเล็มเลียทำความสะอาดนิ้วให้อีกฝ่ายไม่ได้ขัดขืนหรือดื้อดึงอะไรจนมินยุนกินึกแปลกใจในพฤติกรรม แก้มเนียนขึ้นสีระเรืออย่างน่าเอ็นดู ไหนจะหัวสีแดงที่เคลื่อนตัวตามนิ้วของเขายามที่ตั้งใจแกล้งจะเอามือออกมาจากปากนั้นอีก
ให้ตาย เด็กนี่มันน่ารักจริงๆนั้นแหละ
“ต่อจากนี้ก็ทำหน้าที่ของเธอให้ดีล่ะ”
มินยุนกิว่าพลางดึงนิ้วตัวเองออกจากปากนิ่มนั้น สายน้ำใสยืดตามออกมาจนกระทั่งขาดสะบั้นออกจากกัน เจ้าหนูน้อยมองเขาตาละห้อยเหมือนเด็กน้อยที่ถูกสั่งไม่ให้กินอมยิ้มของโปรด
แต่เขากำลังจะหาแท่งใหม่มาทดแทนให้ต่างหาก
ซิบกางเกงถูกปลดออกด้วยฝีมือของประธานมิน เนื้อชั้นในสีสดกำลังถูกดุนดันโดยเจ้าลูกรักที่หงุดหงิดเต็มทน ไม่ช้าก็ได้ออกมาสูดอากาศหายใจภายนอกจากการที่เขาดึงชั้นในลงมาทัดไว้ด้านใต้เจ้าลูกบอลกลมๆของตัวเองทั้งสองข้าง
เอาล่ะ ได้เวลาให้เด็กมันเริ่มงานจริงๆซักที
“นี่โฮซอกอ่า เธอรู้ไหมว่าหน้าที่ของบอดี้การ์ดคืออะไร”
น้ำเสียงแหบห้าวที่เอ่ยออกมาพร้อมเจ้าลูกชายตัวโตที่กระดิกจากการเคลื่อนที่ของคนพ่อทำเอาเด็กหนุ่มหน้าขึ้นสีแดงเถือกจนแทบจะไม่เหลือพื้นที่สีเนื้อ โฮซอกหายใจติดขัดยิ่งแก่นกายของอีกฝ่ายตอนนี้มันจ่อแทบชิดริมฝีปากเขาอยู่ร่อมล่อ ความร้อนที่สัมผัสได้แม้ไม่ได้แตะต้องมันทำให้ภายในกายเขาร้อนรุ่มตามไปด้วย
“มีหน้าที่ปกป้องผู้ว่าจ้างและทำให้เขา พึ่งพอใจ คือหน้าที่ของเธอ”
แท่งสีแดงก่ำถูกถูไถกับปากนิ่มเมื่อพูดจบประโยคและอีกฝ่ายก็รับคำโดยง่ายด้วยการใช้ริมฝีปากงับเบาๆแต่ส่วนแข็งขืนที่ร้อนจัดมันไม่ง่ายต่อการทำตามเสียเท่าไหร่
ความรู้สึกเหมือนกินไส้กรอกที่พึ่งเข้าไมโครเวฟอุ่นร้อนๆมาเข้าปากตัวเอง
โฮซอกรู้สึกเหมือนปากเขาจะพองซะเดี๋ยวนั้นถ้าไม่ติดว่าใบหน้านิ่งติดดุของอีกฝ่ายยังคงมองมาเพื่อสื่อว่าให้ทำต่อเขาคงร้องไห้งอแงขอให้หยุดไปแล้ว
“อื้ม…ดี”
เสียงแหบพร่าที่เอ่ยชมของท่านประธานทำเอาเด็กน้อยดีใจ ปากเล็กอ้าออกเอาส่วนหัวแดงก่ำเข้าปากแล้วออกแรงดูดมันแรงๆจนเกิดเสียงน่าอายแต่เวลานี่หูของเขามันอื้ออึงไปหมด โฮซอกพยายามอย่างมากที่จะเอาลูกชายตัวโตของยุนกิเข้าไปให้ได้หมดแต่มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะแค่เลยมาไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำมันก็ทิ่มคอหอยเขาจนแทบขย้อนของเก่าออกมาแล้ว
“ไม่ต้องรีบ ค่อยๆ”
มือใหญ่จับเอาใบหน้าสวยให้ขยับเข้าออกช้าๆพร้อมเอวของตัวเองที่สวนเข้าหาแต่ดูเหมือนบางทีเเขาจะทำลึกไปหน่อยจนเด็กนี่น้ำตาคลอหน่วงไปหมด
ยุนกิค่อนข้างประหลาดใจในความเรียนรู้ได้เร็วของเด็กตรงหน้า โฮซอกไม่จำเป็นต้องให้เขาช่วยสอนอีกต่อไปเพราะเจ้าคนตรงหน้าจัดการรูดรั้งทั้งปากและมือประสานกันอย่างดีให้เขารู้สึกเสียวซ่านจนแทบอยากกระแทกสวนเข้าไปแรงๆ ไหนจะหยอกล้อกับลูกบอลทั้งสองข้างนั้นอย่างกับเด็กได้ของเล่นใหม่ ทั้งบีบนวดและลูบมันปรนเปรอเขาจนแทบยืนไม่ไหว
นัยส์ตาเหมือนลูกกวางน้อยเงยขึ้นสบกับเขาในตอนที่ฟันซี่เล็กกำลังจะขบลงบนแท่งเหมือนเป็นการขออนุญาต ลูกรักถูกถูไถจากของแข็งทำเอาปวดหนึบจนเส้นเอ็นขึ้นปูดโปนอย่างน่ากลัว โฮซอกยังคงเล่นสนุกทั้งที่ก่อนหน้านี้แทบร้องไห้อยู่เต็มทนแต่ดูเหมือนพออะไรๆเริ่มเข้าที่ความกลัวมันก็หายไปแทบหมดสิ้นกลับกันเป็นอยากให้อีกฝ่ายชื่นชมเขาอีกเยอะๆเสียมากกว่า
“เด็กดี”
ยิ่งมินยุนกิชมเขามากเท่าไหร่ปากเล็กก็ยิ่งทำหน้าที่อย่างไม่มีขาดตกบกพร่องจนตอนนี้แท่งเอ็นเหนียวเหนอะไปด้วยทั้งน้ำลายจากคนสวยและน้ำที่เขาผลิตขึ้นมาเองไปหมดแล้ว
ก๊อกๆ
เสียงประตูไม้หน้าห้องถูกเคาะทำเอาทั้งท่านประธานและเด็กภายใต้การควบคุมสะดุ้งโหยง มินยุนกิเอ่ยบอกให้คนด้านนอกรอก่อนและรีบกลับไปนั่งที่เก้าอี้ของตนเองอย่างรวดเร็ว
“มานี่”
แขนเล็กถูกฉุดกระชากให้เดินตามมาอย่างไม่เข้าใจ ท่านประธานมินจับยัดเด็กหนุ่มให้ลงไปยังใต้โต๊ะทำงานของตนเองพร้อมทั้งกำชับให้อยู่เงียบๆ
“ท่านประธานคะ ตอนบ่ายมีท่านผู้ว่าเชิญให้ไปร่วมโต๊ะอาหารดินเนอร์กันที่โรงแรมของทางเราฝั่งใต้ค่ะ ไม่ทราบว่าท่านจะรับไหมคะ”
คุณเลขาคนสวยเดินเข้ามาทันทีที่ได้รับเสียงอนุญาต มือเรียวที่ถูกตกแต่งด้วยเครื่องประดับยื่นเอาแฟ้นเอกสารมาวางไว้บนโต๊ะท่านประธานพร้อมแจงรายละเอียดข้อมูลของท่านผู้ว่าที่มาขอนัด
มินยุนกิสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเด็กที่ควรจะอยู่เงียบๆดันซุกหน้ามาที่ต้นขาแข็งแรง ตาตี่แอบเหลือมองก็เห็นว่าเจ้าหนูเหมือนจะทนไม่ไหวอีกต่อไปเพราะข้อมือเล็กที่กำลังสาวเอาตัวตนของตัวเองขึ้นลงอยู่พร้อมปากเล็กที่คาบเสื้อเพื่อกลั้นเสียงร้องไว้มันน่ารักจนอยากยกโทรศัพท์ขึ้นมาเก็บช็อตนี้เอาไว้เป็นความทรงจำ
เฮือก!
ตึง!
โฮซอกตกใจจนหัวทุยกระแทกกับโต๊ะเสียงดังทำเอาคุณเลขาตกใจไปด้วย ใบหน้าสวยที่แต่งแต้มไปด้วยเครื่องประดับมองท่านประธานที่ส่งยิ้มแหย่มาให้ไม่เหมือนปกติ
“โทษที ผมขากระตุกชนโต๊ะหน่ะครับ”
ตอแหลทั้งเพ
เขาก็แค่อยากจะช่วยเด็กน้อยด้วยการเอาฝ่าเท้าที่จัดการถอดรองเท้าทิ้งไปแล้วกดเข้ากับแก่นกายสีชมพูน่ารักนั้น
โฮซอกตัวเกร็งยิ่งกว่าเก่าเพราะรองเท้าส้นสูงสีแดงเพลิงมันมาหยุดอยู่ตรงช่องว่างด้านใต้โต๊ะให้เห็นเล็กน้อย
เขาพยายามข่มใจให้สงบแล้วคาบกัดเอาเสื้อตัวเองเอาไว้เพื่อกั้นเสียงร้องที่พร้อมจะปล่อยออกมาทุกเมื่อ
นิ้วเท้าที่อยู่ภายในเนื้อผ้าสีทึบของคุณประธานทำหน้าที่ได้ดีเกินไปจนเด็กน้อยแทบปลดปล่อยออกมา
หยาดน้ำเกาะพร่าไปทั่วใบหน้าและดวงตาของคนใต้โต๊ะทั้งเพราะความกลัวและความร้อนรุ่มของอุณหภูมิร่างกาย
“เอ่อ…ถ้างั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ”
คุณเลขาสาวเอ่ยลาพร้อมหยิบเอากองเอกสารเก่าที่เซ็นเรียบร้อยแล้วออกไปด้วย มินยุนกิดันเก้าอี้ออกมามองเจ้าคนตัวบางที่หอบแฮ่กแต่ข้อมือเล็กยังไม่หยุดปรนเปรอให้กับร่างกายของตัวเอง
“มานี่สิ”
เจ้าของร่างขาวตบตักตัวเองพร้อมเอ่ยเรียกให้อีกฝ่ายมานั่งบนตักแกร่ง
อ่าให้ตาย
เจ้าเด็กตรงหน้าเขาคลานเข่าเข้ามาหาพร้อมพยุงขาที่สั่นเทาเพราะแรงอารมณ์ให้ขึ้นพาดกับตัก โฮซอกหอบหายใจอย่างงหนักหน่วงยิ่งตอนที่ฝ่ามือที่ผ่านการทำงานมาอย่างโชกโชนนั้นลูบไล้เจ้าหนูน้อยของเขาอย่างเบามือ
“เธอเคยแล้วสินะ”
ท่านประธานพูดขึ้นมาเสียงเรียบ เขาดูจากท่าทางกระสั่นอยากของอีกฝ่ายมันทำให้เดาได้ไม่ยากว่าอาจจะเคยผ่านเรื่องอย่างว่ามาแล้วแม้มันอาจไม่ได้โชกโชนเหมือนเขาก็ตาม
“มะ…”
โฮซอกยังไม่ทันเอ่ยปฏิเสธเสียด้วยซ้ำเจ้าแท่งร้อนแข็งขืนของคนเป็นนายก็สอดใส่เข้ามาแบบไม่บอกกล่าว ริมฝีปากบางอ้าพะงาบความเจ็บปวดแล่นร้าวไปทั่วร่างเพราะอะไรที่มันใหญ่โตกำลังรุดล้ำเขามาในเขตห่วงห้ามของเขา
ครั้งแรกกับของที่ใหญ่ขนาดนี้ ไม่เจ็บจนช่องทางฉีกขาดก็คงสะโพกหักกันไปข้าง
“บ้าชิบ ทำไมมันแน่นขนาดนี้ว่ะ”
เจ้าช่องทางคับแคบมันตอดรัดเขาเสียจนมินยุนกิปวดหนึบไปหมด ความร้อนภายในช่องทางและความฝืดเคืองมันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีกลับกันแรงเสียดสียิ่งทำให้แท่งเอ็นร้อนเจ็บแสบเสียด้วยซ้ำ
ยุนกิผละออกมามองใบหน้าสวยที่ตอนนี้เต็มไปด้วยหยาดน้ำตามากมาย เจ้าหนูที่ทาบทับอยู่บนตักแกร่งสะอื้นไห้อย่างน่าสงสารเพราะความเจ็บปวดและแรงอารมณ์ที่เขาเผลอกระทำใส่
เสื้อเชิ้ตที่ถูกมือเล็กทึ้งอยู่ยับยู้ยี่ไปหมดเขาไม่ได้โกรธคนตรงหน้าหรอกที่ทำเสื้อราคาแพงเป็นรอยแต่ตอนนี้ปัญหามันอยู่ที่เขาควรทำยังไงงต่อซะมากกว่า
“เธอครั้งแรกเหรอ ฉันก็นึกว่า..”
ได้แต่บ่นอุบกับตัวเองและสุดท้ายก็ค่อยๆเคลื่อนกายออกแต่ยังไม่ทันสุดเด็กบนตักก็กระเถิบก้นกดทับลงไปให้ลูกชายของเขาเข้าไปอยู่ที่เดิมเสียอย่างนั้น แววตาที่เหมือนลูกกวางน้อยที่หวาดกลัวว่าจะโดนดุนั้นทำให้เขาเข้าใจอะไรหลายๆอย่างมากขึ้น
เด็กนี่คงจะกลัวเขาว่าจนไม่อยากให้เขาถอดถอนกายออกไปสินะ
มันจะน่าฟัดเกินไปแล้ว
ยุนกิยึดเอาสะโพกมนไว้แล้วลงโทษด้วยการกระแทกเข้าใส่ช่องทางสีสวยนั้นแรงๆเสียหนึ่งทีเป็นโทษฐานที่คนใต้บังคับบัญชาทำตัวน่ารักขนาดนี้
“ฮึก!”
โฮซอกเม้มปากแน่น แม้ว่ามันจะเจ็บช่วงล่างมากแค่ไหนแต่เขาก็ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ท่านประธานสั่งให้เขาทำให้อีกฝ่ายพึ่งพอใจ แม้มันจะสร้างความเจ็บปวดให้ตัวเองแค่ไหนแต่คำว่าหน้าที่มันก็ค้ำคอเขาอยู่
ยิ่งเห็นว่าเอวเล็กพยายามขยับสวนความหมั่นเขี้ยวมันก็ยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้นจนกระทุ้งเข้าไปชนกับผนังด้านในให้โฮซอกผวากอดก่ายร่างกายของเขาไว้แน่นเสียจนแทบหลอมรวมกันได้
เสียงหอบหายใจพร้อมเอวแกร่งที่เริ่มขยับได้มากขึ้นทำให้ทั้งห้องเกิดเสียงน่าอายของเนื้อสะโพกที่ถูกกระแทกโดยหน้าตักแกร่ง น้ำล่อลื่นที่ปล่อยออกมาภายในช่องทางช่วยในการขยับขยายมันง่ายขึ้น มินยุนกิครางฮึ่มฮัมในลำคอเพราะแรงตอดรัดจากคนตัวบางที่ตอนนี้ถูกเขาดุนดันลูกชายตัวโตเข้าใส่จนหายใจแทบไม่ทัน
“อ่า…โฮซอก ฉันจะบอกอะไรเธอให้ฟังนะ”
เสียงแหบพร่ากระซิบชิดใบหูขาวที่ตอนนี้ขึ้นสีแดงก่ำ ลมหายใจร้อนเป่ารดเพราะแรงหอบจากกิจกรรมที่กำลังทำอยู่อย่างหื่นกระหาย จังหวะขยับเข้าออกที่แสนรุนแรงสร้างความเสียวซ่านจนหูอื้ออึงแทบฟังอะไรไม่รู้เรื่อง แต่เสียงของเจ้านายก็เรียกสติเขาไม่ให้เตลิดไปไกลได้อย่างไม่น่าเชื่อ
“บอร์ดี้การ์ดส่วนตัวหน่ะได้เงินไม่ดีเท่าคนสนิทของฉันหรอกนะ”
โฮซอกไม่เข้าใจความหมายที่อีกฝ่ายต้องการสื่อ หรืออาจเพราะเขากำลังใกล้จะถึงฝั่งฝันหัวสมองมันเลยขาวโพลนไปหมดจนประมวลอะไรไม่รู้เรื่อง แต่เขาคิดว่าสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังจะสื่อมันคงจะทำให้เขาแทบขึ้นสวรรค์แน่ๆ
“เธออยากเลือกเป็นอะไรล่ะระหว่าง บอร์ดี้การ์ดคนสนิท หรือเมียที่สนิทกันแนบแน่นทั้งร่างกายและจิตใจ เลือกสิ”
เพียงเอ่ยจบประโยคหยาดน้ำก็พรวยพุ่งใส่เสื้อเชิ้ตราคาแพงของเขสด้วยฝีมือของคนบนตัก โฮซอกตัวกระตุกเกร็งจนแทบหงายหลังลำบากให้เจ้านายที่ตอนนี้ไม่ได้มียศอยากจะเป็นนายอีกต่อไปประครองใบหน้าสวยเอาไว้แล้วมอบจูบแสนหวานให้
สะโพกแกร่งยังคงขยับเข้าออกสอดคล้องกับริมฝีปากที่งับเอาปากนิ่มเหมือนเยลลี่เข้ามาชิม รสหวานหอมของลิปมันทำให้เขาแปลกใจนิดหน่อยแต่มันก็หวานเสียจนอยากจะกลืนกินมันเข้าไปให้รู้แล้วรู้รอด
รสจูบแสนละมุนค่อยๆแปรเปลี่ยนไปเป็นกลิ่นคาวเลือดเพราะการดูดจากคนตัวขาวที่ขบเอาปากนิ่มจนได้เลือด ยุนกิไล่ป้อนจูบจนโฮซอกกำลังจะขาดหายใจตายแต่ก็รอดมาได้เพราะเขายอมปล่อยให้เป็นอิสระ กลิ่มหอมของกายตรงหน้าเย้ายวนจนต้องพรมจูบไปทั่วใบหน้าและมาจบลงบนลำคอขาว
รอยแล้วรอยเล่าถูกแต่งแต้มให้คนบนตัวจนพร้อยไปหมดนี่ยังไม่นับรวมกับช่วงร่างที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดขยับลงเสียทีมีแต่ความรุนแรงที่เพิ่มมากขึ้นจนในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหวไถเอากองเอกสารลงบนพื้นให้หมดแล้วจับยกเอาร่างบางที่นั่งทาบทับบนตักขึ้นไปเกยอยู่บนโต๊ะทำงานทั้งที่ส่วนล่างยังคงเชื่อมต่อกันอยู่
เจ้าลูกชายตัวโตที่ไม่รู้ไปโกรธใครมาตัวแดงก่ำแข็งขืนเป็นท่อนลำยาวที่ตอนนี้คั่งค้างอยู่ในโพรงสีสวยเพียงแค่ส่วนหัวเท่านั้น
แชะ
มินยุนกิทนไม่ไหวแล้วจริงๆ
สาบานเลยว่าถ้าเขาเปิดตัวกับเจ้าเด็กนี่เมื่อไหร่จะจ้างช่างภาพมาถ่ายตอนได้สอดใส่รูสวยนี่
เสียงเนื้อกระทบกันดังขึ้นอีกครั้งเซอราวรอบห้องประหนึ่งลำโพงยี่ห้อแพงกำลังเปิดเพลงสุดมันแต่ตอนนี้เสียงคนร้องคงแทนที่ด้วยเสียงครางของคนใต้ร่างเขาแทน
“ให้ตายสิ เธอเสร็จอีกแล้วเหรอ”
มินยุนกิคาดโทษเด็กตรงหน้าที่เอามือปิดปากตัวเองด้วยความเขินอายหลังจากเสร็จไปอีกรอบทั้งที่เขายังไม่ได้ปลดปล่อยเลยสักครั้ง
บางทีจองโฮซอกก็สงสัยนะว่าท่านประธานมินอึดเกินไปหรือตายด้านกันแน่
“ถ้าฉันยังไม่เสร็จเธอก็ไม่ได้พักหรอกนะโฮซอกอ่า”
“อ๊า! ท่านประธาน อึ๊ก…อ่ะ อ่ะ~♡”
_____________________FIN____________________
อุ้ย.....
จบแล้วง่ะ55555555 ขอให้ความกามจงสถิตอยู่กับทุกท่านและขอบคุณพล็อตฟิคจากรีเควสเดือนที่แล้วนะคะ ลืมอย่านึงคือ...พิยุงเกะเปงมาเฟีย แค่กๆๆๆ
ฟิคเรื่องนี้ก้าโฮปนะคะ ขีดเส้นใต้ ก้าโฮป ร้อยล้านเส้น
ยังไงก็ให้กำลังใจด้วยการคอมเม้นเล็กๆน้อยด้วยนะคะ ไม่แน่มันอาจจะมาไวขึ้นเพราะทุกคนก็ได้ คริ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ
Twitter:JH_SS_218